ขี้อายเข้ากรุง ทำงานปิดเทอม

--- การมีบุคลิกขี้อายถือว่าเป็นบุคลิกที่เฉพาะตัว และเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่ง บางทีก็ดูมีเสน่ห์ คือถ้าเป็นสาวขี้อาย ก็น่าจะดูน่ารักน่าเอ็นดู แต่ถ้าใครเป็นมาก ขี้อายมากไปก็กลายเป็นเรื่องไม่ดี เพราะนอกจากจะไม่กล้าแสดงความคิดเห็น ไม่กล้าคุยกับใครแล้ว ยังเป็นการปิดโอกาสดีๆ ที่จะเข้ามาอีกต่างหาก
--- เรื่องก็มีอยู่ว่าช่วงที่ผมเรียนอยู่มัธยมต้น ประมาณ ม.2 ช่วงปิดเทอมใหญ่ ได้มีโอกาสเข้ากรุงเพื่อที่จะมาหางานทำเป็นทุนการศึกษา และนี้ก็เป็นการเข้ากรุงครั้งแรกของผมด้วยครับ น่าจะประมาณปี 2538 ญาติผมพาผมมาฝากกับร้านประดับยนต์ครับ ร้านก็จะประมาณซ่อมแอร์รถ ติดเครื่องเสียง กันชน กันขโมย บังโคลน ที่นี้มีช่างเยอะคับ ประมาณ 7-8 คนถ้าจำไม่ผิด โดยพักและกินอยู่ที่ร้านเลย 5 คนรวมถึงผมด้วย

--- ผมเป็นคนพูดน้อยมาก โดยเฉพาะกับคนแปลกหน้า เรื่องขี้อายนี้ผมว่าผมสุดๆ ทำงานได้สักพักก็เริ่มปรับตัวเข้ากับพี่ๆช่างได้ และแล้วก็มาถึงช่วงที่ผมจำได้ตลอดชีวิต มันเป็นช่วงสงกรานต์ครับ ทางร้านหยุดต่อเนื่องหลายวันเลย ถ้าจำไม่ผิดนี้เป็นอาทิตย์คับ ปัญหาเกิดสิคับเขากลับบ้านกันหมด แต่ผมไม่ได้กลับครับ
เพราะมันไกลมาก แล้วญาติผมก็ไม่มีใครกลับ ผมก็เลยต้องอยู่เฝ้าร้านคนเดียว พี่ๆเขาก็ถามว่าผมอยู่ได้ไหม ผมก็บอกว่าน่าจะอยู่ได้

--- แต่เอาเข้าจริงไม่เป็นอย่างนั้นสิครับ ผมลืมนึกไปว่า แล้วเราอยู่เราจะกินอะไร เพราะปกติ พี่ๆเขาจะหาให้กิน หุงข้าว ซื้อกับข้าว ซื้อน้ำกิน พี่เขาไม่อยู่แล้วใครจะหาให้กิน ที่สำคัญผมหุงข้าวไฟฟ้าไม่เป็นด้วย ที่บ้านผมสมัยนั้นยังไม่มีใช้ครับ แม่สอนหุงด้วยเตาถ่าน ยังไงหละก็อดข้าวสิครับ ขี้อายแบบสุดด้วย ไม่กล้าออกไปซื้ออีก ผมก็นอนกินแต่น้ำได้ 2 - 3 วันน้ำก็หมดอีก อายอีกไม่กล้าออกไปเอาน้ำอีก คือต้องไปซื้อน้ำถังจากทางปั้มน้ำมัน ที่อยู่ติดกัน เชื่อไหมครับ ความขี้อายของผมผมยอมนอนอดข้าว กินน้ำประปา โดยที่ผมนอนอยู่แต่ในห้องแคบๆ ไม่ไปไหนเลย ทั้งอาทิตย์ แล้วในที่สุดวันสุดท้าย ผมหมดแรง และหิวมากๆ
--- ผมรวบรวมความกล้า แล้วนึกถึงวีธีหุงข้าวหม้อไฟฟ้าที่พี่ๆเขาเคยสอนไว้ หม้อไฟฟ้าขนาด 24 นิ้ว ผมลองหุงประมาณ ครึ่งหม้อมันไม่สุกเท่าไรครับแต่ก็พอกินได้ ปัญหาต่อมาไม่มีกับข้าว ขี้อายไม่ไปซื้ออีก แต่ที่ร้านมีน้ำปลา ด้วยความหิวผมกินข้าวมื้อเดียวหมดครึ่งหม้อเลยครับ ข้าวเปล่าคลุกน้ำปลาชั่งอร่อยจริงๆ และนี้ก็คือไอ้ขี้อายเข้ากรุง ของผมครับ ขอจบแต่เพียงเท่านี้ครับ
ขอบคุณ steemit ที่ให้พื้นที่เก็บเรื่องราวของผม ขอบคุณพี่น้อง และเพื่อนชาวไทยทุกๆ กลุ่ม ชุมชนที่ช่วยเหลือกันเสมอ และที่สำคัญผู้ใหญ่ใจดี จะเป็นทีมงาน @thaiteam, @curie จะเป็นทาง@esteem, @good-karma และท่านอื่นๆที่ไม่ได้เอยชื่อ ที่คอยสนับสนุนกันเสมอ

ขอบคุณทุกๆคะแนนโหวต และกดติดตาม สวัสดีครับ
โชคดีมีตังใช้ กล /@kolkamkwan 🙏 20-07-2018
Comments