บวชเอาพรรษา

การบวช เป็นประเพณีไทยสืบเนื่องมาแต่โบราณกาล ชายไทยเมื่ออายุครบบวช จะต้องบวชให้ได้สักครั้งหนึ่งในชีวิต เพื่อการศึกษาพระธรรมคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและสืบทอดอายุพระพุทธสาสนาสร้างกุศลอันยิ่งใหญ่ให้ตนเองและบิดามารดารวมทั้งหมู่ญาติการมีโอกาสได้เป็นนักบวช ดำรงเพศสมณะผุ้ตั้งใจฝึกฝนอบรมตนเองเพียงช่วงระยะเวลาสั้นๆ ก็สามารถค้นหาแหล่งความสุขที่แท้จริงศึกษาเรื่องราวความจริงของชีวิตเป้าหมายของการเกิดมาเป็นมนุษย์ว่าเกิดมาทำไมตายแล้วไปไหนบาปบุญคุณโทษนรกสวรรค์ภพนี้ภพหน้าและสังสารวัฏ ซึ่งเป็นความรู้ที่มีอยู่แต่ในพระพุทธศาสนาที่ทนทานต่อการพิสูจน์

ทุกวันนี้การบวชพระ บวชกันเร็วมากหมายถึงหลังจากบวชได้ไม่กี่วันก็ลาสึกขากันแล้ว ทุกวันนี้จะเห็นว่าเวลาจัดงานบวชที มีค่าใช้จ่ายเยอะมาก แต่บวชกันแป็ปเดี่ยวยังไม่ทันได้เรียนรู้อะไรก็สึกแล้ว จนเมื่อต้นปี สำนักพุทธฯ ต้องมีประกาศให้การบวชระยะสั้น ต้องปฏิบัติตามที่ “มหาเถรสมาคม” มีมติกำหนดระยะเวลาการบวชระยะสั้นคือ 15 วัน หรือ 30 วัน พร้อมออกหลักสูตรอบรมเข้ม 6 วิชา เพราะบวชแค่ 7 วัน น้อยไป ไม่ทันจะได้ เรียนรู้อะไรก็สึกกันแล้ว

แต่ทางบ้านผมส่วนมากจะบวชเอาพรรษ หมายถึง บวชอยูในพรรษาจนครบนะครับ ในความคิดผม ผมว่าการบวชพระเอาพรรษานี้ แทบไม่ต่างจากการเป็นทหารเกณฑ์เลยในเรื่องของการฝึกจิตใจ ความอดทนอดกลั้น และมีความเหนือกว่าก็คือการฝึกกาย วาจา ใจ ให้สำรวมในทุกๆเรื่อง ซึ่งผมว่ามันเป็นเรื่องที่ยากมากๆ เลยครับ ตอนเป็นฆราวาส นึกจะทำอะไรก็ได้ แต่เป็นพระนี้ไม่ได้เลยครับ มีศีล 227 ข้อ ที่เป็นกฏระเบียบให้พระสงฆ์ยึดปฏิบัติ แปลกนะครับช่วงที่ผมบวชมีเพื่อนที่บวชด้วยกันตอนเป็นฆราวาส เกเร ขี้เมา นิสัยแย่มาก แต่พอบวชเป็นพระยังกับเป็นคนละคน ตั้งใจปฏิบัติศึกษา เล่าเรียน ถึงขนาดท่องสวดปาฏิโมกข์ได้เลยครับ

การบรรพชาและอุปสมบท ตามประเพณีนิยมของไทยเราก็เพื่อเป็นการทำหน้าที่ของพุทธศาสนิกชน หมายความว่า พุทธศาสนิกชนจะช่วยรักษาพระพุทธศาสนาโดยรักษาพระธรรมวินัยให้เจริญ มั่นคง อีกทั้งเป็นการทำหน้าที่ของคนไทยด้วย หมาย ความว่า พระพุทธศาสนาเข้ามาอยู่ในสังคมไทย และได้กลายเป็นมรดกของชนชาติไทย เป็นหน้าที่ ที่เราต้องช่วยกันสืบทอดมรดกนี้ให้ดำรงอยู่ นอกจากนี้ ยังเป็นการสนองพระคุณบิดามารดา ตามที่ถือกันเป็นประเพณีว่า ถ้าใครได้บวชลูกแล้ว ก็ได้บุญกุศลมาก ช่วยให้พ่อแม่ได้เกาะชายผ้าเหลืองไปสวรรค์ อีกทั้งได้เป็นญาติของพระศาสนา แต่ถ้ามองความหมายให้ลึกซึ้งลงไป มันเป็นเรื่องความเป็นจริงของชีวิตจิตใจ คือ การบวชเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้จิตใจของพ่อแม่มีความสุข มีความปลาบปลื้มใจ ด้วยความหวังว่าเมื่อลูกได้เข้าไปอยู่ในวัด ได้ศึกษาอบรมในพระธรรมวินัยแล้ว ต่อไปก็จะเป็นคนดี จะรับผิดชอบชีวิตของตนเองได้ จะรับผิดชอบต่อครอบครัวและสังคมได้ แล้วเกิดความมั่นใจ พ่อแม่ก็จะมีความสุขเพิ่มมากขึ้น ขณะเดียวกันเมื่อลูกบวช ก็เท่ากับจูงพ่อแม่เข้ามาสู่พระศาสนาด้วย มีโอกาสได้ฟังธรรม ได้เรียนรู้ธรรมะ ทำให้ได้ใกล้ชิดพระศาสนา เรียกว่าเป็นญาติของพระศาสนาอย่างแท้จริง และนี้คือเหตุที่ว่าการบวชเพื่อแทนคุณบิดามารดา
ไม่ใช้การแค่บรรพชาหน้าไฟ (บวชหน้าไฟ) เดินนำท่านตอนที่ท่านเสียชีวิตแล้ว

และที่ผมคิดว่าสำคัญที่สุดเลย อนิสงค์จากการบวชก็คือ การฝึกอบรมพัฒนาตนเอง คือการพัฒนาชีวิตทั้งในด้านความประพฤติ คือพฤติกรรมทางกาย วาจา และด้านจิตใจที่มีความดีงาม เข้มแข็ง มั่นคง เป็นสุข และในด้านปัญญาคือความรู้ความเข้าใจสิ่งทั้งหลายตรงตามความเป็นจริง พอเท่านี้ก่อนแล้วกันครับเดี่ยวจะยาวไป ถ้ามีโอกาส จะมาเล่าถึงชีวิตนักบวชบ้านนอกให้ได้อ่านครับ
ขอบคุณ steemit ที่ให้พื้นที่เก็บเรื่องราวของผม ขอบคุณพี่น้อง และเพื่อนชาวไทยทุกๆ กลุ่ม ชุมชนที่ช่วยเหลือกันเสมอ และที่สำคัญผู้ใหญ่ใจดี จะเป็นทีมงาน @thaiteam, @curie จะเป็นทาง@esteem, @good-karma และท่านอื่นๆที่ไม่ได้เอยชื่อ ที่คอยสนับสนุนกันเสมอ

ขอบคุณทุกๆคะแนนโหวต และกดติดตาม สวัสดีครับ
โชคดีมีตังใช้ กล /@kolkamkwan 🙏 21-07-2018
Comments