ผมเองเป็นเกิดและเติบโตในชนบทแถบอีสานใต้ อาหารการกินของคนอีสานส่วนใหญ่แล้วผมเชื่อว่า หนีไม่พ้นอาหารที่มีรสชาติ เผ็ดร้อน ความเผ็ดร้อน เป็นรสชาติ ที่อยู่คู่กับคนอีสาน มานานแล้ว นอกจากภาคอีสานผมว่าแทบทุกภาคของประเทศไทย น่าจะมีอาหารรสเผ็ดร้อนที่ขึ้นชื่อของแต่ละภาค อย่างแน่นอน ภาคอีสานก็จะเป็น ส้มตำ, น้ำพริกปลาร้า ภาคใต้ก็คงจะเป็น คั่วกลิ้ง, แกงเหลือง ภาคหนือ ก็เป็นพวก น้ำพริกตาแดง, น้ำพริกหนุ่ม ส่วนภาคกลางจะเป็น น้ำพริกกะปิ, ต้มยำต่างๆ อาหารรสเผ็ดจะมีพริกเป็นส่วนประกอบเสมอ พูดถึงพริกที่ความเผ็ดมากที่ผมมักได้ยิน บ่อยๆว่ามันมีความเผ็ดมาก ก็เจ้า "พริกกะเหรี่ยง" ที่มักจะได้ยินเสมอเวลาที่แม่ยายทำกับข้าวที่มีรสเผ็ดมากๆ และในพริกนั้นเองก็มีสาร แคปไซซิน ซึ่งจะมีอยู่มากที่สุดบริเวณก้านของพริก ส่วนเปลือกและเมล็ด จะมีสารน้อยรองลงมา เรามาดูกันว่าสารชนิดนี้ให้ประโยชน์อะไรกับเราได้บ้าง
แต่ก่อนอื่นมารู้จักเจ้า แคปไซซิน ก่อนว่ามันคืออะไร สารสำคัญในพริก คือ แคปไซซิน(Capsaicin) ที่ทำให้พริกมีรสเผ็ดร้อน ทางวงการลดความอ้วนนำสารสกัดจากพริก มาเป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์ที่เร่งเผาผลาญไขมัน นอกจากพริกแล้ว สารแคปไซซิน ยังพบได้ในพริกไทยอีกด้วยแคปไซซิน (capsaicin) เป็นสารประกอบฟีนอลิก (phenolic compound) ที่พบตามธรรมชาติในพริก ส่วนใหญ่จะอยู่ในบริเวณเยื่อแกนกลางสีขาว หรือเรียกว่า “รก” (placenta) ส่วนของเนื้อผลพริก เปลือกผล และเมล็ดจะมีสารแคปไซซินอยู่น้อยมาก สมบัติของแคปไซซิน ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น ละลายในน้ำได้เล็กน้อย และละลายได้ในไขมันน้ำมัน และแอลกอฮอล์ได้ดี มีจุดหลอมเหลว 65 องศาเซลเซียส ทนความร้อนและความเย็นได้ดีด้วย
ประโยชน์ของแคปไซซิน การวิจัยโดยอาจารย์จากคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พบว่าพริกสามารถลดระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยเบาหวานได้ และพริกไทยลดไขมันในเลือด ไขมันในเนื้อเยี่อ ไตรกลีเซอไรด์ ฟอสโฟลิปิด และคอเลสเตอรอลได้ในหนูทดลอง
มีพริกที่มีการพัฒนาสารพันธุ์ให้สร้างสารกลุ่มแคปไซซินอยด์(Capsaicinoids) ที่ไม่ใช่แคปไซซิน ซื่อว่า สารแคปไซเตท แต่พิสูจน์แล้วว่าสามารถลดการสะสมไขมันที่ตับ และมีผลิตภัณฑ์เร่งการเผาผลาญไขมันจากพริกชนิดนี้ จำหน่ายในประเทศญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริกา ผลิตภัณฑ์นี้เหมาะกับคนอ้วนที่มีการเผาผลาญต่ำ เนื้อตัวเย็น มาดูประโยชน์จากการกินเผ็ด เพิ่มเติมอีกหน่อย
กินเผ็ดจะช่วยเรื่องของระบบเผาผลาญในร่างกาย เพราะรสชาดเผ็ดร้อนของพริกทำให้เราหลั่งเหงื่อออกมาคลายความร้อนหรือความเผ็ด เห็นได้ว่าคนบางคนกินเผ็ดมากเหงื่อนี้ท่วมตัวเลย โดยเฉพาะผม แล้วก็ช่วยระบบทางเดินหายใจ ช่วงฤดูฝนที่เป็นหวัดคัดจมูกกันบ่อยๆ ก็ได้อาหารรสเผ็ดร้อนนี้แหละ ที่ช่วยทำให้ระบบทางเดินหายใจของเราโล่งขึ้นได้ เพราะสารแคปไซซินที่อยู่ในพริกนี่แหละที่ช่วยลดน้ำมูกและสารที่ขวางระบบทางเดินหายใจของเรา อันนี้ผมอ่านเจอประจำคับ แล้วก็กินบ่อย เวลาเป็นหวัด อันที่จริงเป็นคนชอบกินเผ็ดเป็นประจำอยู่แล้ว ที่ดีมากเลยก็นี้คับช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งได้ด้วย ในพริกมีวิตามินซีมาก และการกินวิตามินซีมากก็ช่วยในการป้องกันการเกิดมะเร็ง เพราะวิตามินซีช่วยยับยั้ง การสร้างสารไตรซามีน ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็ง
ช่วยลดความเจ็บปวด จากการปวดฟัน จากอาการเจ็บคอ และสารแคปไซซินในพริกยังถูกนำไปเป็นส่วนผสมของขี้ผึ้ง เพื่อใช้สำหรับบรรเทาอาการปวดและคันได้ ช่วยลดการอุดตันของเส้นเลือด เพราะความเผ็ดร้อนจะทำให้ระบบโลหิตไหลเวียนดีขึ้นและช่วยลดความดันอีกด้วย ช่วยให้รู้สึกสดชื่น ผลจากสารแคปไซซิน ทำให้ร่างกายหลั่งเหงื่อ และช่วยให้ร่างกายผลิตสารเอนดอฟิน แต่การกินเผ็ดมาก ก็ไม่เป็นผลดีกับร่างกายเหมือนกัน ลองมาดูกันว่าการกินอาหารรสเผ็ดเกินไปนั้นมีผลเสียอะไรกับร่างกายบ้าง
โทษจากการกินเผ็ด
โรคหัวใจ รสเผ็ดจะช่วยทำให้ระบบไหลเวียนโลหิตในร่างกายทำงานมากขึ้น และมีผลให้หัวใจทำงานหนักมากขึ้น ทำให้เพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ โรคทางกระเพาะอาหาร เมื่อกินอาหารรสจัด (เผ็ด) เข้าไป จะเกิดกรดในกระเพาะ ถ้ากรดมากก็จะทำให้ ท้องอืด , แสบท้อง, ปวดท้อง โรคอ้วน เพราะรสเผ็ดช่วยให้เราเจริญอาหารดี ทำให้กินอาหารได้มากขึ้น ทำให้เกิดโรคอ้วนตามมา แสบร้อน เพราะพริกมีสารแคปไซซินซึ่งทำปฎิกิริยากับร่างกายของเรา ถ้าละอองพริกเข้าดวงตา หรือสัมผัสกับร่างกายของเรา อาจทำให้เราแสบตา หรือแสบร้อน บริเวณที่โดนพริกได้
ที่หามาบทความมาประกอบมากมาย ก็เพื่อที่จะบอกว่า ผมมีเคล็ดลับ แต่อาจจะไม่ลับมากเท่าไร เพราะเหมื่อนจะมีบทความต่างๆ บอกเล่าเกี่ยวกับเคล็ดลับนี้ นั้นก็คือ การแลบลิ้นให้น้ำลายยืดลงพื้นนั้นเอง เพี่ยงเท่านี้ก็จะสามารถแก้เผ็ด หรือบรรเทาอาการเผ็ดได้แล้วครับ เขาบอกว่าอาการเผ็ดนั้นเกิดจากสารที่ชื่อ แคปไซซิน ที่อยู่ในพริกเข้าไปจับกับปลายประสาทรับรถที่ลิ้น ร่างกายจะก็จะแสดงปฎิกริยาโดบขับน้ำลายออกมาชะล้างเอาเจ้าสารนี้ออกไป ก็ลองทำดูนะครับ สูตรนี้ผมใช้มาตั้งแต่เด็กแล้วครับ ผมมักจะกินข้าวโรยด้วยพริกผง แล้วก็น้ำปลาประจำคับตอนเด็กๆ แล้วก็มักจะใช้วิธีนี้บรรเทาอาการเผ็ดตลอดครับ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก: คู่มืออาหารเสริม, ดร.เริงฤทธ์ สัปปพันธ์
http://www.agric-prod.mju.ac.th/web-veg/article/new128.htm
โชคดีมีตังค์ใช้ กล / @ kolkamkwan
YouTube : S.Sudjai Channel
Instagram : Sakol_Sudjai
Twitter : kolkamkwan
Tumblr : ssudjaime
reddit : kolkamkwan
WeKu : @kolkamkwan
Facebook : sakolsudjai
Steemit : @kolkamkwan
thai friendsgroup ulog palnet marlians zzan sct-thai gratefulvibes lifestyle