สวัสดีครับ ก็ยังมาที่เรื่องของความเร็ว กับระยะเบรค อีกบทความแล้วกันนะครับ สำหรับตอนที่แล้วเราได้พูดถึงสิ่งที่จะต้องรู้เกี่ยวกับสมรรถนะของรถเรา ที่เราขับอยู่ เรื่องทั่วๆไปของรถเราเนี่ยมันเป็นอย่างไรg=เช่นเครื่องยนต์แรงไหม เช่นเครื่อง 3,000 เครื่อง 2,500 เครื่อง มันจะแรงมากแตกต่างกัน น้ำหนักรถผมว่าก็มีส่วนกับ แล้วก็ระบบเบรคของเราเป็นอย่างไร เราใช้งานอยู่เป็นประจำเนี่ย น่าจะรู้อยู่นะครับ ว่าเป็นยังไง แต่ถ้าเป็นรถใหม่ๆ คือว่ารถที่เราไม่เคยใช้งานเลยคันนี้ เพิ่งจะขึ้นขับเป็นครั้งแรก สิ่งสำคัญเลยที่เราจะต้องรู้ แน่นอนว่าหนึ่งเข้าเกียร์ เพื่อทำการทดสอบเบรคทุกครั้ง ก่อนการออกรถ เพื่อที่เราจะได้รู้ว่าความลึกของเบรคที่เราเหยียบเนี้ย มันลึกขนาดไหนอ่ะครับ แล้วมันก็จะรู้ด้วยว่า เบรคอยู่หรือเบรคไม่อยู่

หลังจากนั้นถ้ามีการขับขี่ไปบนท้องถนนแล้ว การเว้นระยะห่างระหว่างรถ 2 คันเนี่ยมันก็ต้องสัมพันธ์กันกับความเร็วของรถยนต์ด้วย ยกตัวอย่างนะครับอันนี้สมมุตินะครับ หากเว้นระยะให้ปลอดภัยเนี่ยก็คือยกตัวอย่างเช่นความเร็วที่ 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง รถเราเนี่ยควรที่จะขับตามคันหน้าเว้นระยะไว้สัก 10 เมตรเป็นต้น อะไรประมาณนี้ ถ้าเกิดว่าความเร็วลดลงมาเหลือสัก 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเราอาจจะเว้นระยะห่างลงหน่อยก็ได้ อาจจะลดลงเหลือมาสัก 5 เมตรอะไรประมาณนี้ครับ อันนี้เป็นเรื่องสมมุตินะครับ ซึ้งมันก็ขึ้นอยู่กับอะไรบ้างล่ะปฏิกิริยาของเราเองว่าโอเค สมมติคันหน้าเขาเบรคแล้วเนี่ยเราเร็วแค่ไหน เราเร็วแค่ไหนในการแตะเบรกของเรา ความเร็วกับระยะเบรคของรถเราเนี่ยโอเคมันอยู่ไหม นอกจากนี้เราจะต้องเผื่อในเรื่องของสภาพแวดล้อมด้วยนะครับ เช่น พื้นถนนเป็นยังไง ฝนตก หรือเปล่า พื้นแห้งไหม สภาพพื้นเป็นหลุมเป็นบ่อ มีเคมีหรือน้ำมันอะไรบนพื้นหรือเปล่า อะไรประมาณนี้ ก็คือมันก็ต้องดูในเรื่องของสภาพแวดล้อมด้วยเช่นกัน

ok นะครับสำหรับพวกนี้ก็มาคุยกันมาบอกเล่าประสบการณ์กันให้ฟังเท่านี้ เดี๋ยวเรามาเจอกันใหม่ แต่อาจจะเปลี่ยนเรื่องคุยบ้างนะครับ ก็ขอจบในเรื่องของความเร็วกับระยะเบรคไว้แต่เพียงเท่านี้ เดี๋ยวเราค่อยมาคุยกันใหม่เกี่ยวกับเรื่องรถ ว่ามันจะมีอะไรมาคุยได้บ้าง อันที่จริงเรื่องระยะเบรคก็มันก็มีปัจจัยหลายๆอย่างที่อาจนำไปสู่อุบัติเหตุได้ แล้วแต่สถานการณ์ครับ โอเคครับแล้วค่อยเจอกันใหม่ สวัสดีครับ

• thai
• friendsgroup
• zzan
• ocd
• dblog
• gems
• palnet
• peakd
• safety
• danger